วันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก



1.ชีเชนอิตซา (Chichen Itza) ประเทศเม็กซิโก

     ชีเชนอิตซา (Chichen Itza) เมืองเก่าและแหล่งโบราณคดีขนาดใหญ่ในรัฐยูกาตัง ประเทศเม็กซิโก ที่มีชื่อเสียงที่สุดของชนเผ่ามายา ภายในชีเชนอิตซามีโบราณสถานสำคัญมากมาย เช่น วิหารนักรบ วิหารนักบวช หอคอยสังเกตการณ์เอลการากอล และบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แต่ที่โดดเด่นที่สุดก็คือ “พีระมิดเอลกัสตีโย” วัดของชนเผ่ามายาที่มีลักษณะเป็นพีระมิดยอดตัด มีบันได ทั้งหมด 4 ด้าน ด้านละ 91 ขั้น เมื่อนับรวมกับ ฐานจะได้ 365 ขั้น หรือเท่ากับจำนวนวันใน 1 ปี ตามปฏิทินของชาวมายา โดยตรงกลางบนยอดพีระมิดจะใช้เป็นที่ประกอบพิธีสังเวยเทพเจ้าซึ่งมีรูปทรงเป็นสามเหลี่ยมทึบสูงขึ้นไป

     ความน่าอัศจรรย์อีกอย่างหนึ่งของพีระมิดนี้ก็คือตัวพีระมิดหันหน้าไปยังตำแหน่งที่เกิดปรากฎการณ์วิษุวัต หรือปรากฏการณ์ที่โลกมีเวลากลางวันยาวนานเท่ากับเวลากลางคืนซึ่งจะเกิดในเดือนมีนาคมและกันยายน โดยแสงอาทิตย์จะส่องผ่านบันไดด้านทิศเหนือเป็นเงาพาดตัวพีระมิด ดูสวยงามเป็นอย่างยิ่ง



2. รูปสลักพระเยซูคริสต์ (Christ The Redeemer) ประเทศบราซิล

     สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ในลำดับถัดมาคือ กริชตูเรเดงโตร์ หรือ Christ The Redeemer รูปสลักพระเยซูคริสต์สร้างโดยปอล ลันดอฟสกี ประติมากรชาวฝรั่งเศส มีความสูง 38 เมตร แขนยาว 28 เมตร สัญลักษณ์อันโด่งดังของประเทศบราซิล แกะสลักจากหินสบู่ขนาดใหญ่ ตั้งตระหง่านเป็นสง่าอยู่ที่ยอดเขากอร์โกวาดู ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาหลักของประเทศบราซิล และรูปสลักนี้ก็ถูกสร้างขึ้นบนยอดเขาโดยหันพระพักตร์ของพระเยซูคริสต์เข้าหาเมือง ให้เสมือนว่าเมืองอยู่ใต้การคุ้มครองของพระองค์ เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้คนในประเทศ



3.กำแพงเมืองจีน (Great Wall Of China) ประเทศจีน


     กำแพงเมืองจีน หรือ Great Wall Of China เป็นทั้ง 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลางและสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ และยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย กำแพงเมืองจีนน่าจะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่คนไทยคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี และเชื่อได้เลยว่าหลายคนอาจเคยไปเยือนมาแล้ว

     กำแพงเมืองจีนก่อสร้างขึ้นเมื่อกว่า 2,500 ปีมาแล้ว สร้างขึ้นจีนสมัยสมัยราชวงศ์ฉิน มีเป้าหมายเพื่อป้องกันการเข้ามารุกรานดินแดนทางเหนือจากชาวมองโกเลียและชาวเติร์ก โดยกำแพงเมืองจีนมีความยาวกว่า 21,196 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่กว่า 15 มณฑลทั่วประเทศจีน มีลักษณะเป็นกำแพงยาวแบบมีป้อมคั่น ถือเป็นสิ่งก่อสร้างโดยฝีมือมนุษย์ที่ยาวที่สุดในโลกเท่าที่เคยมีมา




4.มาชูปิกชู (Machu Picchu) : เปรู
ที่มา : http://pirun.ku.ac.th/~b5310700455/12702060391270206129l.jpg

     มาชูปิกชู (Machu Picchu) หรือที่คุ้นกันในชื่อ “นครสาบสูญแห่งอินคา” เป็นสถานที่สำคัญของ ชนเผ่าอินคา และเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์โลกยุคใหม่ ที่ได้ชื่อว่าเมืองสาบสูญเพราะผู้คนอพยพออกจากดินแดนแห่งนี้ไปหมด เนื่องจากการรุกรานของชาวสเปน และถูกลืมไปนานนับร้อยปีจนนักโบราณคดี ไฮแรม บิงแฮม ได้มาค้นพบเมื่อ พ.ศ. 2454

     มาชูปิกชูตั้งอยู่ห่างจากเมืองกุสโกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือราว 70 กิโลเมตร ลักษณะเมืองเป็นป้อมปราการแบบลดหลั่นเป็นขั้น ภายในมีซากวัด พระราชวัง น้ำพุ และแท่นบูชา และสถาปัตยกรรมประณีตอีกมากมาย โดยนักสำรวจได้คิดค้นทฤษฎีเหตุผลในการก่อสร้างมาชูปิกชูขึ้นมามากมาย เช่น เพื่อบูชาพระเจ้า เพื่อเป็นบ้านพักตากอากาศของจักรพรรดิอินคา เป็นสถานีทดลองเกษตรกรรม เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมเกี่ยวกับดาราศาสตร์ ฯลฯ ส่วนไฮไลท์ของมาชูปิกชูอยู่ที่การ์ดเฮาส์ (Guardhouse) สามารถมองเห็นมาชูปิกชูในมุมกว้างได้อย่างสวยงาม




5.นครเปตรา (Petra) ประเทศจอร์แดน

ที่มา : http://www.travelprothai.com/media/k2/items/cache/bc61c35998920c79a57e03ad91265e8b_XL.jpg

     นครเปตรา ซ่อนตัวอย่างลึกลับในหุบเขาวาดี มูซา หุบเขาที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบเดดซี กับทะเลอัคบาในประเทศจอร์แดน นครนี้ในสมัยโบราณนั้นเป็นนครแห่งการค้าขนาดใหญ่ เป็นเมืองหลวงของชนเผ่านาบาเชียนซึ่งเป็นชนเผ่าที่อาศัยอยู่ทางตอนใต้ของประเทศจอร์แดนในสมัยก่อน และถูกละทิ้งเป็นเวลานานกว่า 700 ปี ซึ่งได้ถูกค้นพบโดยนักสำรวจชาวสวิตเซอร์แลนด์ โจฮันน์ ลุควิก เบิร์กฮาร์ท ในปี ค.ศ. 1812

     ชาวนาบาเชียนสร้างเมืองแห่งนี้โดยใช้วิธีการแกะสลักหินให้เป็นช่องอุโมงค์ โรงละครของเมืองแห่งนี้ซึ่งเป็นต้นแบบของโรงละครแบบกรีก-โรมัน ส่วนหน้าของวิหารเอล เดียร์ ซึ่งสูง 42 เมตร ในเมืองแห่งนี้เป็นตัวอย่างที่ดีอีกแห่งหนึ่งของสถาปัตยกรรมแบบกรีกโบราณ ทำให้นครเปตราได้รับลงทะเบียนจากองค์กร UNESCO ให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2528




6. โคลอสเซียม (Colosseum) ประเทศอิตาลี
ที่มา : http://pirun.ku.ac.th/~b5310700455/colosseum.jpg

     โคลอสเซียม (Colosseum) ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม ประเทศอิตาลี มีอายุกว่า 2,000 ปี ในอดีตโคลอสเซียมเป็นสนามกีฬาสำหรับชมการต่อสู้ของนักรบมากความสามารถและมีฝีมือเก่งฉกาจที่เรียกว่าเกลดิเอเตอร์ โดยการต่อสู้มีหลายรูปแบบทั้งการต่อสู้ระหว่างเกลดิเอเตอร์ด้วยกันเองและเกลดิเอเตอร์กับสัตว์ โคลอสเซียมถือเป็นความอัศจรรย์ทางสถาปัตยกรรมตัวจริงด้วยจุผู้ชมได้กว่า 50,000 คน มี 4 ชั้น ใช้เวลาก่อสร้างยาวนานถึง 10 ปี ภายในประกอบด้วยอัฒจันทร์สำหรับผู้ชม ห้องนักสู้ กรงขังสัตว์ และห้องเก็บอุปกรณ์ ในปัจจุบันโคลอสเซียมเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของกรุงโรม ที่ยังคงรูปแบบอันงดงามและแข็งแรงของโรมันไว้ได้เป็นอย่างดี



7.ทัชมาฮาล (Taj Mahal) ประเทศอินเดีย
ที่มา : http://www.thaiticketmajor.com/imgUpload/images/Taj%20Mahal.jpg

     สุสานหินอ่อน ทัชมาฮาล แห่งนี้ ผู้คนเชื่อว่าเป็นสถาปัตยกรรมแห่งความรักที่สวยที่สุดในโลกที่สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโมกุล ผู้มีรักมั่นคงต่อพระมเหสีของพระองค์ ทัชมาฮาล ตั้งอยู่ในสวนริมฝั่งแม่น้ำยมุนา ในเมืองอาครา ส่วนที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ หลุมศพของพระนางมุมตัซ มาฮาล ซึ่งถูกสร้างด้วยหินอ่อนสีขาว ศิลาแลง ประดับลวดลายเครื่องเพชร พลอย หิน โมราและเครื่องประดับจากมิตรประเทศ ได้รับคำรับรองว่าสร้างขึ้นด้วยสัดส่วนที่วิจิตรและงดงามที่สุด รวมถึงยังได้รับการยกย่องว่าเป็นตัวอย่างชั้นเลิศของสถาปัตยกรรมมุฆัลในอินเดีย ที่นี่ต้องใช้แรงงานในการก่อสร้างถึง 20,000 คน และใช้เวลาก่อสร้าง ถึง 20 ปี




อ้างอิิง







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น